พาสายมูตะลุยฮ่องกง! ขอพร 5 ที่ให้ปังทั้งงาน เงิน ความรักและชีวิต

“ขอได้ ไหว้รับ” คือคำขวัญที่ทำให้ใครต่อใครต่างก็เดินทางมาไหว้ขอพรที่วัดนี้เพราะที่นี่มีความเชื่อกันว่าไม่ว่าใครมาขอก็ล้วนแต่สมหวังกันทั้งนั้น วัดหวังต้าเซียนสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1921 โดยเหล่านักบวชลัทธิเต๋าที่นับถือพระหวังต้าเซียนหรือที่รู้จักกันในชื่อ ฮวงชูปิง โดยท่านหวังต้าเซียนได้เดินทางมาจากเมืองจีนเพื่อเผยแพร่ศาสนาพุทธในฮ่องกง คนท้องถิ่นเชื่อกันว่าหวังต้าเซียนเป็นเซียนผู้มีชื่อเสียงด้านการรักษาโรคและการโปรดสัตว์ และเชื่ออีกว่าท่านสามารถแปลงร่างเป็นมังกร บินเหาะเหินกลางอากาศได้และสามารถช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากได้อย่างน่าอัศจรรย์อีกด้วยค่ะ 

สถาปัตยกรรมของวัดแห่งนี้จะเป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะแบบลัทธิเต๋า ขงจื้อ และศาสนาพุทธนิกายมหายาน ซึ่งสะท้อนผ่านบริเวณกำแพงมังกร 9 ตัว (Nine Dragon Wall) ที่จำลองมาจากกำแพงในพระราชวังและยังมีสวนหยินหยางที่เงียบสงบเหมาะสำหรับการทำสมาธิ ถ้าใครมาที่วัดนี้ก็จะสามารถขอได้ทุกเรื่องเลยเพราะว่ามีเทพและองค์พระหลายองค์เลยค่ะ ทั้งเทพเจ้าหวังต้าเซียน เจ้าแม่กวนอิม เจ้าที่ เทพเจ้าหยุคโหลว (เทพเจ้าแห่งความรัก) และเทพขงจื้อ เป็นต้น  

แต่เทพเจ้าที่ทำให้วัดหวังต้าเซียนมีชื่อเสียงมากขึ้นไปอีกนั่นก็คือ เทพเจ้าหยุคโหลว หรือที่นิยมเรียกกันว่า เทพเจ้าแห่งความรัก นั่นเองค่ะ มีตำนานว่ากันว่าเดิมทีเทพเจ้าหยุคโหลวเป็นมนุษย์ธรรมดาที่อาศัยอยู่กับภรรยา จนวันหนึ่งภรรยาได้ตายจากไป เขาจึงเฝ้าสวดมนต์ภาวนาต่อเหล่าทวยเทพ ขอให้ตนเองได้ขึ้นไปอยู่บนดวงจันทร์กับคนรัก จนในที่สุดคำขอก็เป็นจริง จึงทำให้เทพเจ้าหยุคโหลวมีฉายาอีกอย่างหนึ่งว่า ผู้เฒ่าแห่งจันทรา นั่นเองค่ะ

หากใครโสดและต้องการสมหวังเรื่องความรักต้องลองไปไหว้เทพเจ้าหยุคโหลวเลย เพราะท่านขึ้นชื่อมาก ๆ เรื่องทำให้เราได้เจอคู่แท้ ของแบบนี้ไม่ลองก็ไม่รู้ใช่ไหมคะ ถ้าใครแวะไปไหว้ก็ขอให้ทุกคนสมหวังเรื่องความรักตามที่ปรารถนาน้า

ถ้าพูดถึงวัดที่คนฮ่องกงนิยมไปในช่วงตรุษจีนเพื่อแก้ปีชง วัดแชกงหมิวคือชื่อแรกที่หลายคนนึกถึงเลยล่ะค่ะเพราะเป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งที่คนฮ่องกงเคารพนับถือกันมาอย่างยาวนาน วัดแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ "แม่ทัพแชกง" ขุนพลผู้กล้าจากสมัยราชวงศ์ซ่ง ผู้ที่ชาวบ้านเชื่อว่ามีพลังในการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งมาจากตำนานที่ว่าในอดีตเคยมีโจรสลัดจะยกทัพมาปล้นหมู่บ้านซ่าถิ่น และชาวบ้านในหมู่บ้านก็ตื่นตกใจและเก็บข้าวของอพยพหนีกันหมด ซึ่งมีหญิงคนหนึ่งที่กำลังจะพาลูกของตัวเองหนี ในระหว่างทางเธอได้พบกับชายชราเคราขาวยาว ลักษณะน่าเกรงขาม ได้ถามเธอถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและบอกให้เธอกลับไปยังหมู่บ้านและพับกังหันลมกระดาษให้มากที่สุดแล้วนำไปเสียบไว้หน้าหมู่บ้าน เมื่อโจรสลัดมาถึงที่หมู่บ้านก็ได้ยกพลหนีและหมู่บ้านก็ปลอดภัย ชาวบ้านจึงเชื่อกันว่าเป็นเพราะชายชราผู้นี้ได้ช่วยเหลือเอาไว้ และเชื่อว่าชายชราผู้นั้นคือ แม่ทัพแชกง นั่นเองค่ะ

ด้วยเหตุนี้ที่นี่จึงมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงมากคือ “กังหันนำโชค” ตรงตามตำนานที่เล่าต่อกันมา ซึ่งผู้คนจะมาอธิษฐาน แล้วหมุนกังหัน 3 รอบตามเข็มนาฬิกา เพื่อเรียกพลังงานดีให้เข้ามาในชีวิต และพัดพาสิ่งที่ไม่ดีออกไป นอกจากนี้บางคนก็เชื่อกันว่า กังหันนำโชคนอกจากจะปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไปแล้ว ยังช่วยให้เรื่องโชคลาภด้วยนะคะ เพราะการหมุนกังหันลมนำโชคจะทำให้ชีวิตราบรื่นไม่ติดขัดเหมือนกังหันที่ลู่ลมอยู่นั่นเอง วัดแชกงหมิวจึงเหมาะกับผู้ที่กำลังเจอมรสุมในชีวิต ต้องการเริ่มต้นใหม่ หรืออยากรับพลังปกป้องจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้ชีวิตมีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาปราศจากโชคร้าย หากใครมีโอกาสไปฮ่องกงก็อย่าลืมไปรับพลังงานดี ๆ ที่วัดแชกงหมิวกันนะคะ

หากน้อง ๆ นักเรียน นักศึกษา มาอ่านบทความนี้ บอกเลยว่าวัดนี้เหมาะกับสายเรียนมากที่สุดค่ะ เพราะวัดหมั่นโหมวมีความศักดิ์สิทธิ์มากเรื่องการศึกษา เป็นอีกวัดที่เก่าแก่ของฮ่องกง และเป็นวัดที่มีหลายที่ทั่วฮ่องกง แต่ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดจะอยู่ที่ย่านเชิงหว่านบนถนนฮอลลีวูดค่ะ 

วัดหมั่นโหมวสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1847 และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นอาคารประวัติศาสตร์เมื่อปี ค.ศ.2009 และได้รับการอนุรักษ์ไว้ในฐานะอนุสรณ์สถานอีกด้วยค่ะ วัดหมั่นโหมวเป็นวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องการศึกษามาเป็นเวลาช้านาน นับตั้งแต่ในอดีต เวลาที่สอบจอหงวนก็มักจะมีเหล่าบัณฑิตมากราบไหว้ขอพรให้สอบผ่านกันอยู่เสมอ เพราะที่นี่เป็นที่บูชา เทพเจ้าหมั่นไตกวั้น เทพแห่งวรรณกรรม และ เทพเจ้าโหมวไตกวั้น เทพแห่งสงคราม จึงจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จด้านการศึกษา รวมถึงเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตนั่นเองค่ะ

วัดหมั่นโหมวเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมงดงาม ตัวอาคารเป็นสีขาว และมีหลังคากระเบื้องสีเขียวดูสบายตา อีกทั้งยังมีภาพจำสำคัญคือ ขดธูปขนาดใหญ่ ที่จะแขวนอยู่ภายในด้านบนเพดานตรงจุดสักการะ ซึ่งเจ้าขดธูปขนาดใหญ่นี้จะใช้เวลากว่า 3 อาทิตย์กว่าจะเผาไหม้จนหมดเลย และด้วยเหตุนี้เองหากใครแพ้ควันธูปอาจจะต้องใส่หน้ากากหน่อยนะคะ เพราะด้านในวัดค่อนข้างจะคลุ้งไปด้วยควันธูปเลยล่ะค่ะ

หากน้อง ๆ คนไหนกำลังเตรียมสอบแล้วอยากหาวัดดี ๆ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้ตัวเองสอบผ่านก็สามารถแวะไปไหว้ขอพรที่วัดหมั่นโหมวนี้ได้นะคะ

หากใครได้มาเยือนฮ่องกง แล้วอยากพักจากความวุ่นวายของเมืองหลวงแล้วหันไปสู่อ้อมกอดของธรรมชาติและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ “วัดเจ้าแม่กวนอิม รีพัลส์เบย์” คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ วัดนี้ตั้งอยู่ริมชายหาดรีพัลส์เบย์ ทางตอนใต้ของฮ่องกง จุดเด่นคือมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมเป็นองค์ประธานหลักซึ่งหันหน้าออกสู่ทะเลซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการคุ้มครองจากภัยทางน้ำและความเมตตาของเจ้าแม่กวนอิมที่ไร้ขอบเขตไร้พรมแดนไม่มีที่สิ้นสุด อีกทั้งยังมีเทพเจ้าจีนองค์อื่น ๆ เช่น พระสังกัจจายน์ เจ้าแม่ทับทิม และไฉ่ซิงเอี้ย ที่ผู้คนต่างพากันมาขอพรเรื่องความรัก สุขภาพ การงาน และโชคลาภ วัดนี้จึงเป็นวัดที่มาทีเดียวแล้วสามารถไหว้ขอพรได้ทุกเรื่องเลยค่ะ

นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งในไฮไลท์คือ “สะพานต่ออายุ” ที่เชื่อกันว่าถ้าเดินข้ามแล้วจะช่วยเพิ่มอายุขัยได้ 3 วันบนสวรรค์ซึ่งเท่ากับ 3 ปี บนโลกมนุษย์ ซึ่งนอกจากสะพานแล้วภายในวัดยังมีจุดฮวงจุ้ยดี ๆ ให้เราได้รับพลังงานมงคลอีกมายมาย หากใครมีโอกาสแวะไปก็ลองไปเดินให้ทั่วทุกบริเวณดูนะคะ ซึ่งบอกเลยว่าหากใครจะไปการเดินทางก็แสนสะดวกเลยค่ะ สามารถเดินทางได้หลายวิธีไม่ว่าจะโดยรถบัสหรือรถไฟฟ้าใต้ดินก็มีมาถึง 

วัดเจ้าแม่กวนอิมเป็นวัดที่อยากให้ลองมากันเพราะนอกจากจะศักดิ์สิทธิ์มากแล้วบรรยากาศก็ยังดีมาก ๆ แถมบริเวณรอบ ๆ ก็มีชายหาดและคาเฟ่ให้เดินเล่นอีกด้วยค่ะ

ท่ามกลางขุนเขาและสายหมอกของเกาะลันเตา มีวัดแห่งหนึ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางธรรมชาติ วัดนั้นคือ วัดโปหลิน (Po Lin Monastery) สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่เพียงงดงามด้วยสถาปัตยกรรม แต่ยังเต็มไปด้วยพลังศรัทธาที่สัมผัสได้ตั้งแต่ก้าวแรก

วัดโปหลินเป็นวัดพุทธนิกายมหายาน ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1906 มีชื่อเสียงอย่างมากจากการเป็นที่ประดิษฐานของ “พระใหญ่เทียนถาน” หรือ พระพุทธรูปกลางแจ้งองค์ใหญ่ที่สุดในฮ่องกง ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาสูงต้องเดินขึ้นบันได 268 ขั้นจึงจะเข้าถึง ระหว่างทางขึ้นสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของหุบเขาและธรรมชาติโดยรอบ จึงเป็นอีกจุดชมวิวที่คนนิยมมากันอีกด้วยค่ะ

วัดแห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีผู้คนจากทั่วสารทิศนิยมมาขอพร โดยเฉพาะในเรื่องจิตใจ การเรียน การงาน และสุขภาพ เพราะหลายคนเชื่อว่าพระใหญ่เทียนถานเป็นสัญลักษณ์แห่งปัญญา ความเมตตา และสติ จึงนิยมขอพรให้ตนเองมีความมั่นคงในใจ มีทางออกในยามที่ชีวิตสับสน และผู้ปกครองยังชอบพาบุตรหลานมาสักการะเพื่อขอให้มีสมาธิและสติปัญญาในการเรียน ในขณะที่คนวัยทำงานก็หวังให้บารมีของพระองค์ช่วยส่งเสริมความก้าวหน้าและความหนักแน่นในการตัดสินใจ เรียกได้ว่าเป็นวัดที่ไม่ว่าใครก็สามารถมาขอพรเพื่อเสริมสิริมงคลได้เลยล่ะค่ะ

และอีกหนึ่งในประสบการณ์ที่น่าประทับใจที่สุดของการมาเยือนวัดโปหลิน คือการนั่งกระเช้านองปิง (Ngong Ping 360) กระเช้าลอยฟ้าแบบสายเคเบิลสองเส้นที่ยาวที่สุดในทวีปเอเชียด้วยความยาวกว่า 5.7 กิโลเมตร ที่จะพาเรานั่งผ่านวิวทะเลและภูเขาสวยงามในมุมสูงแบบชมวิวได้ 360 จึงถูกยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 การนั่งกระเช้าลอยฟ้าที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในโลก เป็นอีกประสบการณ์ที่จะเสริมให้การมาไหว้พระขอพรยิ่งพิเศษขึ้นไปอีกเพราะได้ทั้งชมวิวและได้บุญเลยในทีเดียว

และที่สำคัญหากใครมีโอกาสได้แวะไปต้องอย่าลืมลองเสี่ยงเซียมซีกันดูด้วยนะคะ เพราะที่นี่มีชื่อเสียงมาก ๆ เรื่องคำทำนายในใบเซียมซีที่แม่นจนขนลุก โดยเฉพาะคำทำนายในด้านสุขภาพ แม่นไม่แม่นยังไงอย่าลืมมาบอกต่อกันด้วยน้า

เป็นไงกันบ้างคะได้สถานที่ดี ๆ จดเข้าลิสต์เพื่อเตรียมไปเที่ยวฮ่องกงกันบ้างไหมเอ่ย ครั้งหน้าทราเวลแลนด์จะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจที่ไหนอีก ฝากติดตามกันไว้ด้วยนะคะ สำหรับวันนี้ สวัสดีค่า